ใครจะคว้ารางวัล…นักมวยไทยอาชีพ วันกีฬาแห่งชาติ ปี 2563 ของ กกท. . ปีนี้ งดรับ
พระราชทานถ้วยรางวัล ร.10

วันที่ 16 ธันวาคม วันกีฬาแห่งชาติ และถ้าพลิกดูประวัติศาสตร์แล้ว เป็นวันสำคัญที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระนามขณะนั้น ในรัชกาลที่ 9 ได้ทรงแข่งขันกีฬาเรือใบชนะเลิศที่ 1 ในกีฬาแหลมทอง หรือซีเกมส์ในปัจจุบัน ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2510 และ พระองค์ทรงขึ้นรับเหรียญรางวัล ในวันพิธีปิดด้วยพระองค์เอง ณ สนามศุภชลาศัย ในวันนั้นเวลา17.09 น. ต่อมาได้มีมติของคณะรัฐมนตรี ให้ถือเอาวันที่ 16 ธันวาคม ของทุกปีเป็น “วันกีฬาแห่งชาติ”
การกีฬาแห่งประเทศไทย เล็งเห็นพระปรีชาสามารถของพระองค์ “พระมหากษัตริย์นักกีฬา” จึงได้จัดงานประกาศเกรียติคุณ เนื่องในวันนักกีฬาแห่งชาติ
เพื่อเชิดชูเกรียติยศของนักกีฬาทุกประเภท สำหรับนักมวยไทยอาชีพ ที่ใฝ่ฝัน คือรางวัลสูงสุด ของการมอบรางวัลยอดเยี่ยมจากภาครัฐให้ครั้งนี้ คือรางวัล “นักกีฬาดีเด่น” ของการกีฬาแห่งประเทศไทย แต่ปีนี้เปลี่ยนชื่อรางวัลใหม่เป็น “รางวัลด้านกีฬาแห่งชาติ” ในวันกีฬาแห่งชาติ ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระปรีชาสามารถทางด้านกีฬาของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยปกติสถานที่จัดงานจะใช้ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก แต่ปีนี้พิเศษสุดกว่าทุกปี ได้รับเกรียติจากภาครัฐบาล โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเปิด ตึกสันติไมตรี และเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลให้ด้วยตนเอง จำนวน 10 รางวัล แต่ละประเภทคือ 1) ผู้ฝึกสอนดีเด่น 2) บุคลากรทางการกีฬาดีเด่น 3) ประเภททีมกีฬาดีเด่น 4) สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยดีเด่น 5) สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดดีเด่น 6) รางวัลพิเศษให้แก่ผู้ทำคุณประโยชน์ทางการกีฬา 7) นักกีฬาพิการดีเด่น 8) นักกีฬามวยไทยอาชีพดีเด่น 9) นักกีฬาอาชีพดีเด่น 10) นักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นดีเด่น งานจะเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00ถึง 19.00 น. โดยจะเริ่มถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ช่อง 9 โมเดิรน์ไนน์ อีกด้วย
ดังนั้นก่อนจะถึงพิธีการมอบรางวัลให้แก่นักกีฬาอาชีพ รวมถึง บุคลากรทางการกีฬา และสมาคมกีฬาอาชีพสายกีฬาต่างทั้ง 10 ประเภท ดังกล่าว ทางกกท.จะให้แต่ละสมาคมเป็นผู้คัดเลือกผู้รับรางวัลเข้ามา และจะมีการพิจารณาถึงผลงานจากอีกครั้งจากคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น พร้อมประกาศมอบรางวัลในวันดังกล่าว แต่รางวัลนักกีฬาดีเด่นประเภท นักมวยไทยอาชีพวันกีฬาแห่งชาติ ครั้งนี้ กกท.ให้ความไว้วางใจโดยมอบให้ สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย เป็นผู้คัดเลือก สรรหา และพิจารณาโดยตั้งคณะกรรมการในส่วนที่สมาคมกีฬามวยอาชีพตั้งขึ้นเอง ซึ่งตรงนี้มีคณะกรรมการทั้งหมด 5 ท่าน ผมเป็น หนึ่งในคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกด้วย ปกติรางวัลที่ต้องคัดเลือกสำหรับรางวัลมวยไทยที่มีผลงานดีเด่นประจำปี 2563 จำนวน 4 รางวัล คือ 1) รางวัลนักกีฬาดีเด่นประจำสมาคมฯ ชาย 1 รางวัล (รับโล่) 2) รางวัลนักกีฬาดีเด่นประจำสมาคมฯ หญิง 1 รางวัล (รับโล่) 3) รางวัลรองนักกีฬามวยไทยอาชีพดีเด่น 1 รางวัล และสุดท้าย (รับโล่) 4) รางวัลชนะเลิศนักกีฬามวยไทยอาชีพดีเด่น 1 รางวัล (รับโล่) ซึ่งจะได้รับถ้วยพระราชทานด้วย เป็นถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในรัชกาลที่ 10 โดยในภายหลังพระองค์จะให้ กรมมหาดเล็ก 904 สำนักพระราชวังในส่วนพระองค์ แจ้งกำหนดการเพื่อไปเข้ารับพระราชทานรางวัล ณ สำนักพระราชวัง โดย เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ฯ เป็นผู้แทนพระราชทานรางวัลให้ ต่อไป แต่ เนื่องจากปีนี้สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด ทำให้กีฬาหลายประเภทต้องงดการแข่งขันไป ทาง กกท. จึงเห็นสมควรงดกราบทูลเพื่อขอรับพระราชถ้วยรางวัลในปีนี้ไปก่อน และให้เสนอชื่อผู้รับรางวัลเพียงคนเดียวเท่านั้น สำหรับ ผู้เคยได้รับรางวัลนี้ไปแล้วมี 2 คน คือในปีแรก รางวัลประจำปี 2561 ได้แก่นายณรงค์ศักดิ์ แก้วมาลา หรือใช้ชื่อในการชก ตะวันฉาย พี.เค แสนชัยมวยไทยยิม ส่วนคนที่สอง คือ นายสุนทร แสงเงิน หรือใช้ชื่อในการชก เขี้ยวพยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ ก็เข้าไปรับถ้วยใบนี้ในปี 2562
ส่วนในปีนี้ รางวัลชนะเลิศนักกีฬามวยไทยอาชีพดีเด่น ประจำปี 2563 จะเป็นใครนั้น คณะกรรมการรวม 5 ท่าน ได้นำข้อมูลเพื่อเสนอพิจารณาในเบื้องต้นวันศุกร์ที่ 4 ธ.ค63 มีนักมวยได้รับการพิจารณารางวัลทั้งหมด 15 คน ตัดออกเหลือเพียง 7 คน คือ 1) รถถัง จิตรเมืองนนท์ 2) ก้องไกล เอ็นนี่มวยไทย 3) เสาเอก ศิษย์เชพบุญธรรม และกำลังรอผลการแข่งขัน วันที่ 4 ธค. ระหว่าง 4) ชูเจริญ ดาบรันสารคราม ชกกับ 5 ) รุ่งกิจ ว.สังข์ประไพ และคู่ที่จะชกวันที่ 8 ธค. นี้ คือ 6) คมเพชร ศิษย์สารวัตรเสือ และ 7) รณชัย ต.รามอินทรา แล้ววันที่ 9 ธ.ค. 63 ตัดสินเพื่อนำรายชื่อให้ กกท. เข้ารับรางวัลได้เลยไม่ต้องมีการพิจารณาอีกต่อไป . สำหรับการพิจารณารางวัลโดยเฉพาะนักมวยไทยอาชีพดีเด่น วันกีฬาแห่งชาติ ความยากอยู่ตรงที่มันจะต้องพิจารณาผลงานนักมวยที่ทำการแข่งขัน และที่สำคัญรางวัลนี้เป็นของ กกท. การพิจารณาจะนับผลการแข่งขันได้ต้องเป็นไปตามระเบียบ ของสำนักงานกีฬามวยที่วางไว้ด้วย ดังนั้นการชกที่ กกท. ไม่ให้การรับรอง เช่น การชกโดยไม่ใช้กติกามวยไทยเต็มรูปแบบ หรือการชกในต่างประเทศโดยไม่ผ่านการรับรองจาก สมาคมกีฬามวยอาชีพ หรือการชกเพียง 3 ยก ฯลฯ ก็ไม่ถือเป็นการชกที่นับสถิติการแข่งขันเพื่อพิจารณา และถ้านักมวยรายใดถูกกรรมการไล่ลง อันนี้ไม่ต้องเสนอชือพิจารณาเลย บางครั้งท่านเห็นนักมวยที่มีสถิติการชกที่ดี ทำไมถึงไม่ได้รางวัล อย่างที่นำเรียนไว้ว่าเนื่องจากเป็นการชกผิดระเบียบที่วางไว้ จึงไม่นับถือเป็นสถิติ และชวดรางวัลไป ก็เลยดูว่ากรรมการพิจารณาตัดสินค้านสายตาตัวเอง เลยนำไปวิจารณ์ ต่างๆ นานาโดยไม่คิดถึงเกณฑ์การพิจารณาประกอบ สำหรับการนับสถิติการชกของนักมวย จะย้อนหลังนับแต่หลังจากวันที่มีการมอบรางวัล 16 ธันวาคม 62 ในปีที่แล้ว จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 63 ที่จะต้องส่งรายชื่อให้ทาง กกท. นั้น แต่อุปสรรคการพิจารณา ในปีนี้ เนื่องจากนักมวยมีร่ายการแข่งขันน้อยลงกว่าทุกปี เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด ที่ผ่านมา จนมีประกาศจาก สำนักงานกีฬามวยให้งดการแข่งขันทั้งระบบเปิดและปิด ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2563 เรื่อยมาจนถึง เดือน กรกฏาคม 63 กว่ามวยจะเริ่มชกแบบระบบปิด จำกัดคนดู บางสนามเช่นสนามมวยลุมพินี ด้วยพิษโควิด หยุดยาวถึง 8 เดือน เพราะเพิ่งเปิดแข่งขันปลายเดือนพฤศจิกายน 63 เอง แน่นอนสถิติถ้าจะนับเหมือนเดิมคือชกทั้งหมดเกือบ 10 ครั้งคงนำมาพิจารณาไม่ได้แน่นอน สถิตินักมวยการชกต่ำ 10 แทบทั้งสิ้น
ลุ้นผล วันที่ 9 ธค.63 ใครจะคว้ารางวัล ชนะเลิศนักกีฬามวยไทยอาชีพดีเด่น ปี 2