“เจ้าเหลิม” ธิติสรรณ์  ปั้นโหมด นักชกความหวังรุ่น 52 กก.ไม่ท้อ  ยอมรับโชคไม่ดี บาดเจ็บหนักช่วงใกล้แข่งพอดี เผยถือว่าฟาดเคราะห์ ขอพักรักษาตัวให้หายสนิทจากนั้นขอลุยต่อ ตั้งเป้าคว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส ขณะที่ “บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬามวยฯ หารือทีมแพทย์เพื่อหาวันผ่าตัดให้เร็วที่สุด เพื่อให้มีเวลาพักฟื้นนานๆ และหายเป็นปกติ ส่วนความหวังในโตเกียวยืนยันทุกคนมีโอกาสคว้าเหรียญเหมือนกันหมด ส่วนใครจะมากหรือน้อยต้องดูการจับฉลาก

ความเคลื่อนไหวของทีมมวยสากลไทย ภายหลัง “เจ้าเหลิม” ธิติสรรณ์  ปั้นโหมด นักชกความหวังรุ่น 52 กก.ชาย บาดเจ็บหนัก จนต้องถอนตัวจากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ด้วยอาการเอ็นไขว้หน้าหัวเข้าซ้ายฉีกขาดระหว่างการฝึกซ้อม ที่ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ มวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี  โดยทีมแพทย์ยืนยันว่าต้องใช้เวลารักษาประมาณ 4 ถึง 5 เดือน

ล่าสุด “เจ้าเหลิม” เปิดเผยว่า ยอมรับว่าเสียใจและเสียดายมากที่ตนเสียโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 เพราะก่อนหน้านี้ตนตั้งความหวังว่าต้องคว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่งกลับมาฝากคนไทยให้ได้ ในตอนคัดเลือก ตนชนะนักชกตัวเต็งๆ มาหลายคนทำให้ตนมีความเชื่อมั่นและตั้งใจมาก พยายามมุ่งมั่นและฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อก้าวไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ แต่ดันโชคไม่ดีเกิดบาดเจ็บซะก่อน วันแรกที่บาดเจ็บไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้ แต่ยิ่งนานวันอาการกลับไม่ดีอย่างที่คิดไว้ ตอนนี้เดินแทบไม่ได้ พอเข้าสแกนเอ็มอาร์ไอ ถึงได้รู้ว่าหนักมากถึงขนาดเอ็นขาด โดยคุณหมอบอกว่าต้องผ่าตัดรักษาเพื่อให้หายขาด ซึ่งน่าจะพักอย่างน้อย 6 เดือน

“เจ้าเหลิม” เผยอีกว่า  ตนโชคไม่ดีเองที่ไม่ได้ไปร่วมโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ สงสัยหลังจากเข้ารับการผ่าตัดต้องทำบุญเยอะๆ อย่างไรก็ตามตนยังไม่ท้อหรือถอยแน่นอนถือเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งก็แล้วกัน และขอมุ่งมั่นต่ออย่างเต็มที่เพื่อเป็น “ธิติสรรณ์คนใหม่” ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม และต้องคว้าเหรียญในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส ฝรั่งเศส ให้ได้ “เจ้าเหลิม” กล่าวตอนท้าย

ด้าน “บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬามวยฯ  เปิดเผยว่า ตนได้ปรึกษากับทีมแพทย์ที่ดูแลทีมมวย ให้เร่งหาวันผ่าตัดให้ “เจ้าเหลิม” อย่างเร็วที่สุด คงไม่ปล่อยไว้อย่างนี้หรือรอหลังจบโอลิมปิกเพราะจะช้าหรือเร็วก็ต้องผ่าตัดอยู่ดี หากผ่าตัดเร็วเท่าไหร่จะได้มีเวลาพักฟื้นนานๆ เพื่อให้หายเป็นปกติ อย่างไรก็ตามแม้ความหวังอันดับต้นๆ จะไม่มี แต่ยังยืนยันนักมวยที่เหลือทั้ง 4 คนก็ความหวังและมีโอกาสที่จะคว้าเหรียญกลับมาทุกคน ส่วนใครจะมากหรือน้อยต้องดูที่การจับสลากอีกครั้ง