จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้แทบทุกคนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติในครั้งนี้ ระลอกแล้วระลอกเล่า ทำเอาบางคนแทบล้มไม่เป็นท่าจนแทบลุกไม่ขึ้น ซึ่งใครพอที่จะมีกำลังก็หยิบยื่นให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ได้ช่วยแบ่งปันความทุกข์ยาก เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกันได้

โรคระบาดไวรัสโควิด-19 ไม่สามารถบอกได้ว่า เราจะอยู่กับโรคนี้ไปนานแค่ไหน เพราะสถานการณ์ตอนนี้ก็ถือว่ายังหนักเอาการ ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังยืนหลักหมื่น และผู้เสียชีวิตรายวันเป็นหลักร้อย แต่ที่แน่ๆ ทุกคนต้องปรับตัวปรับสถานการณ์ให้เข้ากับมันให้ได้เพื่อความอยู่รอด

ซึ่งในสถานการณ์แบบนี้คนวงการมวยเองก็ไม่เคยทิ้งกัน ยื่นมือช่วยเพื่อนในยามทุกข์ยาก อย่างเช่น “เสี่ยต้อม” บูรพา ไกรศิระภพ หัวหน้าค่ายมวยไกรศิระภพบ๊อกซิ่งยิม ที่อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ได้ทำนาปลูกข้าวจำนวนหลายไร่ แล้วจัดทำโครงการ “ข้าวสารปันสุข” มาแบ่งปันให้กับค่ายมวยต่างๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังได้นำข้าวสารที่ปลูกไปมอบให้กับหน่วยงานราชการเป็นสาธารณะประโยชน์ สถานีตำรวจต่างๆ และโรงพยาบาลสนามหลายๆ แห่งอีกด้วย

“เสี่ยต้อม” กล่าวว่า ในยามสถานการณ์ของบ้านเมืองอยู่ในวิกฤติ ค่ายมวยหลายค่ายได้รับความลำบาก ผู้คนทุกข์ยาก จึงได้คิดที่จะทำโครงการข้าวสารปันสุขขึ้น เพื่อช่วยเหลือแบ่งปันข้าวสารที่ปลูกเองให้การช่วยเหลือค่ายมวยที่เดือดร้อนหลายๆ ค่ายที่ร่วมโครงการข้าวสารปันสุข พร้อมทั้งมอบให้โรงพยาบาลสนาม หรือสถานีตำรวจหลายๆ แห่งด้วย

“ที่ผ่านมาก็ให้ทางป๋าสิงห์ ลีโอ เป็นผู้ประสานงานในการแบ่งปันเป็นตัวแทน จากค่ายมวยไกรศิระภพบ๊อกซิ่งยิม เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือไปยังค่ายเล็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และยังขาดสภาพคล่อง ซึ่งมีค่ายที่เข้าร่วมโครงการข้าวสารปันสุขจำนวน 7 ค่าย คือ ค่ายศักดิ์ชานุ จ.สมุทรปราการ, ค่ายศิษย์ตระกูลเถาว์ (เล็กราหุล) จ.ปทุมธานี, ค่ายศิษย์ครูจงอาง จ.นนทบุรี, ค่ายส.วังเสือ จ.ฉะเชิงเทรา, ค่ายมวยเจริญเมืองมวยไทย จ.นครปฐม, ค่ายมวย ส.รุ่งทิพย์ จ.ปทุมธานี และค่ายมวยศักดิ์นิพนธ์ จ.ปทุมธานี ได้มีการทยอยส่งมอบข้าวสารไปให้แล้ว ส่วนค่ายต่างๆ ที่เหลือเนื่องจากสภาวะไม่เอื้ออำนวย มีการประสานไปเบื้องต้นแล้วจะมีการนำแจกจ่ายให้ค่ายอื่นๆ โดยเร็วที่สุด” เสี่ยต้อม แห่งค่ายไกรศิระภพบ๊อกซิ่งยิม กล่าว